ชมรมช่างซ่อมโน๊ตบุ๊ค แหล่งรวมความรู้ งานซ่อมโน๊ตบุ๊ค โหลดไบออส โหลดวงจร เรียนซ่อมโน๊ตบุ๊ค สอนซ่อมโน๊ตบุ๊ค

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครสมาชิก
ค้นหา
ดู: 1824|ตอบกลับ: 8

นิทาน

  [คัดลอกลิงก์]
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีนกกระสาอยู่ไม่กี่ตัว หาปลาอยู่ในหนองน้ำแห่งหนึ่ง เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ จับปลาใหญ่บ้างน้อยบ้าง ได้บ้างไม่ได้บ้าง  แต่อาศํยความชำนาญจนจับปลาชำนาญ ในหนองน้ำแห่งนี้มีนกหลากหลายชนิด หากินแตกต่างกันไป บ้างหาหนอน บ้างหาหอย บ้างหาเขียด หา ไข่ หาเนื้อ ล่าเนื้อ  หนอน หาไส้เดือน หาหญ้าอ่อน หาเกสรดอกไม้ดอกหญ้า แอบขโมยไข่นกเหมือนกันกินก็มี นี่มันเรื่องธรรมดาของธรรมชาติ  อยู่ไปๆๆมีนกหลายชนิดจ้องมาที่นกกระสา เห็นกระสาจับปลากินได้ทีละมากๆๆ  นกเหล่านี้เลยลองจับปลากินบ้าง  แล้วรู็้สึกสนุกกับการจับปลากิน ตอนแรกๆๆก็จับไม่เป็น พอมีปลาตัวไหนอ่อนแรงก็จับกินปลานั้นง่ายๆๆ  นับวัน นกเหล่านี้ก็เลยหันมาจับปลากินเป็นอาหาร แต่จะจับปลาได้บ้างไม่ได้บ้างตามเคยเพราะแรงสู้ปลาไม่ไหว .............แล้ววันหนึ่งก็มาถึง  วันทีจ่าฝูงนกกระสาเรียกฝูงนกรวมกลุ่มเพื่อปรึกษาการหากินว่าใครได้กินอิ่มนอนอุ่นไหม ใครมีปัญหาการทำมาหากินก็มาแลกเปลี่ยนกัน  ก็มาจับกลุ่มคุยกันสาระพันปัญหา  โดยที่ไม่รู้ว่า มีนกอื่นแอบฟังอยู่ใกล้ๆๆ เมื่อนกอื่นล่วงรู้ก็ลองทำตามคำที่ได้ยินมาจึ่งเริ่มที่จะจับปลาตัวที่แข็วแรงได้บาง แต่ถึงกระนั้น เหล่านกกินปลาเป็นอาหารกลุ่มใหม่ ก็ยังแอบฟัง กลุ่มนกกระสาคุยกันอยู่เนืองๆๆ บางครั้งก็มาตีสนิทนกกระสา  เพื่อถามว่า  "ท่านจับปลาอย่างไร ทำไมเราจับไม่ได้เหมือนท่าน"
นกกระสาตอบไปว่า "เราก็ฝึกการจับมาตลอดหลายปีจนตอนนี้ชำนาญเลยจับง่ายๆๆ  "
นกกินปลาใหม่จึงถามต่อไปว่า"ท่านสอนเราจับปลาได้ไหม "
นกกระสาตอบไปว่า "ได้ซิ เดียวคอยดูนะ " นกกระสาจึงโชว์ให้ดู  เมื่อนกกินปลาใหม่ เห็นจึงลองทำตามบ้างก็ทำได้จนน่าพอใจ สามารถจับปลาได้มากขึ้น  พักใหญ่ๆหลังจากนั้น นกทั้งสองกลุ่มจึงตกลงช่วยกันหาปลากินโดยแบ่งปลากันกินตามสมควร อยู่ไปอยู่มา นกสองฝ่ายเริ่มแตกคอกัน แย่งปลากันกินบ้าง ดักปลาไม่ถูกทางบ้าง แอบต้อนปลาเองกินบ้างจนทุกวันนี้ก็เป็นดังฉะนี้แล.........................................มีต่อตอนต่อไป
 เจ้าของ| โพสต์ 28-1-2012 20:08:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อ่านแล้วช่วยวิจารณ์หน่อย จะได้ต่อตอนต่อไป
โพสต์ 28-1-2012 22:38:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ก็ปลามันน่ากินนิน่า จะทนกินหนอนไปใย หนอนบางตัวขนเยอะด้วย
กินยากใช้เวลานานกว่าจะกลื่นลง โดยธรรมชาติของวัฐจักรชีวิต ต้องมีวิวิฒนาการ ช้า.เร็ว.ก็ต้องมี
แต่เดี๋ยวนี้สารกัมมัตภาพรังสีมันเยอะ วัฐจักรชีวิตเลยผิดเพี้ยน ก็ว่ากันไปนั้น
แต่ไม่รู้นะ นิทานเรื่่องนี้ผมยังไม่เคยอ่าน แต่เหมือนจะเคยเห็น ทะแม็งทะแมงแฮะ แต่ไม่ติดเล็จอา
นิทานแต่ละเรื่่องเวลาอ่านจบ ต้องมีบทสรุป (นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.......) เอ้า..รออ่านตอนต่อไป
21292.gif
ห่วงโซอาหารไม่ได้มีแต่นกและปลานะเอ่อ...เผลอเมื่อไหร่เสร็จตัวอื่นทันที ดูซิเพียบๆๆๆ อิอิ


โพสต์ 29-1-2012 19:12:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แต่ผมคิดแบบช่างนะ..ยกง่ายๆช่างซ่อมโน๊ตบุี๊คนี่แหละใกล้ตัวดี ทีแรกความรู้ความสามารถเฉพาะกลุ่ม เฉพาะคน ต่อมามีคนใจดีแถมหวังจะรวมกลุ่มช่างอาชีพเดียวกัน เลยมีเว็ปมาช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนช่างด้วยกัน พอสังคมออนไลน์ที่ไม่มีจำกัดทำให้มีทั้งช่างไม่จริง ช่างฝึกหัด ช่างรื้อ(แต่ไปต่อไม่เป็น) ช่างหัวหมอ(แบบว่าก่อนส่งซ่อมรื้อมาก่อนหรือสืบค้นอะไหล่มาก่อน...แต่กุซ่อมไม่เป็น) หรือช่างกินตับ พอมีช่างหลายสาขามากขึ้น ปัญหารึการเปลี่ยนอะไหล่ง่ายง่ายรึอะไหล่ราคาไม่กี่บาทแต่ค่าซ่อมแพง(แต่รู้ไหม...กว่ากุจะซ่อมได้ขนาดนี้กุต้องลงทุนทั้งเครื่องมือและเสี่ยงกะอะไหล่ที่เปลี่ยนขนาดไหน) พักหลังเกิดปัญหาสารพัด ช่างบางสาขา(บางคนนั้นละ) ก็เล่นลดลาคาตัดหน้าช่างด้วยกันแบบสนั่นหั่นแหลก...ยิ่งอยู่บ้านนอกลูกค้าบอกตอนซ่อมอยู่กรุงเทพไม่แพงขนาดนี้...(อยากตอบไปว่าท่านเร่งเครื่องผมเลยสั่งอะไหล่ทางการบินไทย ไม่ผ่าน NTC คับ) ฉะนั้นช่างเมื่อมีความรู้จากคนที่ใจดีสอนวิชาจับปลาให้แล้ว ควรรักษาความอยู่รอดในการบริโภคทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ด้วยความสามัคคีกัน เป็นมาตรฐานเดียวกัน เปลี่ยนแค่ C ก็อย่าเก็บแค่ค่า C อย่าลืมว่าเวลาเครื่องกลับมาอีกรอบมันอาการเดิมคือไม่ขึ้นจอ ลูกค้าไม่เข้าใจกะท่านหรอกว่าคราวที่แล้วท่านเปลี่ยนแค่ C เท่านั้น คิดเสียว่าทำยังไงช่างอยู่ได้ ลูกค้าพอใจ ช่างไม่กินช่าง....เท่านี้ครับผม เชิญท่านผู้เปิดกระทู้เสนอญัตติต่อเลยครับ
โพสต์ 30-1-2012 11:53:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด

...ผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่าน PO1.Sakonrn ครับ ผมเองเปิดร้านมา10ปี ซ่อมโน๊ตบุ๊คมา4-5ปี อาศัยฝึกหัดเองลองวัดไฟเอง ลองผิดลองถูกเอง หรือถ้าไปเรียนค่าเรียนก็แพงแสนแพง จนปัจจุบันพอไปได้ไม่ได้เก่งมากมาย ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่ช่างฝึกหัดใหม่ๆมีเว็บที่ให้ความรู้มากมายแต่ช่างบางคนกลับไม่คิดจะค้นคว้าหรือลองศึกษาเองบ้าง อะไรไม่ได้ก็ตั้งกระทู้ถามอย่างเดียวเลย พอทำได้หรือซ่อมจบแต่กลับทำราคาแย่ๆ มันเหมือนคุณไม่ให้เกียรติช่างคนที่เค้าบอกหรือคนที่เค้าเป็นคนเจอจุดเสียนั้นๆเลย กว่าเขาจะหาจุดเสียเจอ มันต้องใช้เวลาและความรู้ที่เขามี ลองคิดดูดีๆนะครับช่างทั้งหลายอย่าทำลายอาชีพของพวกเราด้วยการตัดราคา แล้วอีกหน่อยงานซ่อมโน๊ตบุ๊คอาจหมดคุณค่าหมดราคาไม่ต่างอะไรกับการซ่อมมือถือ
โพสต์ 11-2-2013 14:49:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
{:124:} ถ้ามี Link ให้กด กดให้ไปแล้ว ครับ
โพสต์ 11-2-2013 19:57:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอขอบคุณน้องบรุ๊คที่กล้าเล่านิทานนี้ หมอเรียน6ปี รักษาคนไข้ไม่ดี โดนฟ้อง หมอก็ยังเอากันไม่เห็นออกมาทำลายกัน คนเป็นช่างกว่าจะหากินสร้างเนื้อสร้างตัวได้ต้องนอนดึก ดมตะกั่ว โดนด่า สารพัด ถึงiqไม่เท่าหมอ แต่ความอึดอดทนนั้นต้องยกให้เลย ยิ่งเป็นงานซอม(ไม่ใช่งานสร้าง)ด้วยแล้วต้องขลุกกับมันจริงๆปฏิบัติต้อง>or=ทฤษฎี ช่วยกันรักษาไว้เถอะครับอาชีพช่างอิเลคคอม มันพึ่งตัวเองได้ครับ ราคาค่าซ่อมมันมีช่องว่างให้เราคิดได้ ออกแรงไปแต่ลูกค้าไม่ซ่อมเราก็คิดค่าเช็คไปเลย ขอซื้อซากทำกำไรก็ยังไหว ทางเลือกยังมีให้เดิน ช่างtvที่เป็นตัวจริงยังอยู่ได้เลยครับพี่น้อง สู้ๆ
โพสต์ 10-4-2013 23:22:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เห็นด้วย ครับ กับทุกท่าน  ผมเป็นช่าง เหมือนกัน ครับ ช่างTV เจอจนชินละ ครับ เรื่อง ตัดราคา ทำให้ราคาเสีย หมด
ส่วนใหญ่จะเป็นช่าง ที่จบใหม่ๆ (ร้อนวิชา) แต่ผม ไม่เคยคิดที่จะตัดราคาซ่อม ยังคิดราคากลาง ในการซ่อม เสมอมา ก็ยังทำมาหากิน เลี้ยงครอบครัว กับการซ่อม TV ได้อยู่ ซ่อมมา 14 ปี ละครับ ไม่ได้เก่ง อะไร มากมาย แต่ทำด้วยใจรัก
ในสิ่งที่ทำอยู่
โพสต์ 20-5-2013 13:43:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สุดยอดมากค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครสมาชิก

รายละเอียดเครดิต

ปิด

แจ้งข่าวก่อนหน้า /1 ต่อไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Mobile|รูปแบบข้อความล้วน|NBFIX

GMT+7, 4-12-2024 15:45 , Processed in 0.061877 second(s), 22 queries .

Powered by Discuz! X3.4 R20180101, Rev.59

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้