|
15 ตุลาคม 2555
แก๊งแขก หลอกแลกเงินออกอาละวาดอีกแล้ว เจอที่ไหนฝากรุมกระทืบด้วย เมื่อวานผมเจอไปกับตัว วันนี้คิดว่ามันคงหากินวนเวียนอยู่โคราช (บ้านผม)
พฤติกรรมคล้ายๆมายากล คือเราจับผิดไม่ออก ขนาดตาจ้องไม่กระพริบจังโดน {:94:}
ขี่รถเก๋ง เป็นแขกหนุ่มๆ มาสองคน ผิวออกดำ (เขาว่ามีหลายกลุ่ม ทั้งดำ ทั้งขาว) สูงประมาณ180กว่าๆ
ทุกวันนี้คนร้ายข้ามชาติคิดอุบายมุ่งประทุษร้ายต่อทรัพย์เข้ามาก่อเหตุในเมืองไทยในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอนเซ็นเตอร์ แก๊งการปลอมแปลงบัตรเครดิต หรือแม้แต่การแฝงเข้ามาในรูปแบบการค้าและการลงทุน โดยมีเป้าที่สถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ล่าสุด ใช้เล่ห์อุบายขอแลกธนบัตรแล้วชิงเงินจากหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารไปอย่างหน้าตาเฉย โดยที่พนักงานธนาคารไม่ได้เฉลียวใจ กว่าจะรู้ตัวว่าถูกชิงทรัพย์ก็สายไปเสียแล้ว
พฤติกรรมของคนร้ายจะลงมือก่อเหตุ 2 คน โดยคนแรกจะทำทีไปขอแลกเงินกับเจ้าหน้าที่ประจำบูธรับแลกเปลี่ยนเงินตราของธนาคารต่างๆ ส่วนอีกคนจะคอยสตาร์ทรถรอรับเมื่อก่อเหตุเสร็จ โดยพฤติกรรมของคนร้ายรายแรก จะนำธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวนหลายฉบับ ไปขอแลกฉบับละ 1,000 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารนำเงินฉบับละ 1,000 บาทมาให้ จึงออกอุบายขอแลกเฉพาะธนบัตรฉบับที่เป็นหมวดอักษรตัวที (T)
เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ไม่ได้คาดว่ามาก่อนว่าชาวต่างชาติรายนี้จะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ จึงนำเงินสดฉบับละ 1,000 บาท จำนวนหลายฉบับมาให้คนร้ายเลือกดูตามหมวดอักษรที่ต้องการ พอสบโอกาสคนร้ายใช้มือเพียงข้างเดียวหยิบมาคลี่ดูต่อหน้าเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่วนมืออีกข้างแอบไว้ด้านล่างบูธแลกเงิน ไม่ทันที่เจ้าหน้าที่ธนาคารจะสังเกตเห็น จากนั้นคนร้ายจึงใช้มืออีกข้างหยิบเงินบางส่วนพับกำไว้ จากนั้นส่งคืนแก่เจ้าหน้าที่ธนาคาร พร้อมตอบปฏิเสธที่จะแลกเปลี่ยนธนบัตร แล้วรีบเดินหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนร่วมแก๊งสตาร์ทเครื่องจอดรออยู่ กว่าที่เจ้าหน้าที่ประจำบูธแลกเงินจะรู้ตัวว่าถูกคนร้ายหลอกลักเอาเงินที่มาทำทีขอแลกไป คนร้ายก็หายตัวไปแล้ว ต้องสูญเงินคราวละประมาณ 2,000-3,000 บาท
พฤติกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นตามบูธรับแลกเงินของธนาคารต่างๆ มาแล้วหลายพื้นที่ อาทิ พื้นที่ สภ.ศรีราชา สภ.แหลมฉบัง สภ.สัตหีบ สภ.เมืองพัทยา และ จ.ระยอง จำนวนหลายครั้ง และเกิดขึ้นล่าสุดที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบางละมุง พ.ต.ท.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผกก.ป.สภ.บางละมุง ในฐานะเลขานุการ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี หลังรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาในพื้นที่รับผิดชอบ ทราบเพียงข้อมูลว่ามีแก๊งคนร้ายเป็นชาวตะวันออกกลาง จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี ตรวจสอบและติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมคนร้าย
จนกระทั่งสืบสวนได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยจากพาสปอร์ตของชาวอิหร่าน 2 คน ซึ่งมาเช่ารถจักรยานยนต์ย่านพัทยาใต้ โดยเจ้าของรถเช่าให้ข้อมูลว่าไม่ทราบว่าผู้เช่านำรถเช่าไปก่อเหตุ และก็ยังไม่ได้นำรถจักรยานยนต์มาคืน เมื่อตำรวจนำรูปที่อยู่ในพาสปอร์ตไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารดู ต่างยืนยันว่าเป็นคนเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ
เมื่อทราบแน่ชัดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเป็นชายชาวอิหร่าน 2 คน ชุดสืบสวนได้รายงานให้ พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รับทราบ เพื่อรายงานต่อผู้บัญชาการระดับสูงทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงขอหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.519/2555 และหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.520/2555 ลงวันที่ 7 สิงหาคม2555 เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนเอาไว้ได้ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.ท.ศุภชัชจ์ ในฐานะควบคุมดูแลฝ่ายปฏิบัติการ และเลขานุการ ศปอช.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า พฤติกรรมใช้กลอุบายเพื่อลักทรัพย์ของแก๊งคนร้ายข้ามชาติแก๊งนี้นับเป็นครั้งแรกที่พบเห็น จึงอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ธนาคาร หากพบเห็นพฤติกรรมชาวต่างชาติที่เข้าข่ายน่าสงสัย เช่น การเบิกเงินคราวละเยอะๆ หรือแม้แต่การร้องขออะไรต่างๆ ที่ผิดไปจากประเพณีที่ปฏิบัติ ก็อย่าได้ไปไว้ใจเด็ดขาด และไม่ควรตามใจลูกค้ามากเกินไป หากทำให้ไม่ได้ ก็ขอให้ปฏิเสธไว้ก่อน เพราะหากเกิดอะไรขึ้นอาจนำไปสู่การเสียหายทางธุรกิจได้ |
|