สาระสำคัญ |
::: การประกอบวงจรด้านอิเล็กทรอนิกส์ เป็นส่วนหนึ่งในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ซึ่งช่วยสร้างให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ต่อไป ดังนั้นจึงนับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมและกระตุ้นการเรียนรู้ของนักศึกษาได้เป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติงานอิเล็กทรอนิกส์ |
จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม |
- บอกวิธีการในการประกอบวงจรได้ถูกต้อง
- แยกประเภทของแผ่นวงจรพิมพ์ได้
- บอกลักษณะของแผ่นวงจรพิมพ์อเนกประสงค์แบบต่างๆได้ถูกต้อง
- บอกขั้นตอนในการสร้างแผ่นวงจรพิมพ์ด้วยตัวเองได้ถูกต้อง
- มีทักษะในการสร้างแผ่นวงจรพิมพ์และประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้
|
สิ่งที่ควรรู้ในการประกอบวงจร
|
การประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์ คือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าด้วยกันโดยใช้ตัวนำไฟฟ้า เช่นสายไฟ หรือ แผ่นวงจรพิมพ์หรือแผ่นปรินซ์ ที่เป็นลายทองแดง ซึ่งมีข้อควรรู้ดังต่อไปนี้ |
- รู้จักเลือกใช้เครื่องมือให้ถูกประเภทและใช้อย่างถูกวิธี เช่นเลือกหัวแร้งบัดกรีที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับงาน, รู้วิธีการบัดกรีที่ถูกต้อง เป็นต้น
- รู้จักอุปกรณ์ที่จะนำมาต่อแต่ละชนิดว่ามีรูปร่างและลักษณะอย่างไร มีค่าและขนาดเท่าไร เพื่อจะได้ประกอบวงจรได้ถูกต้อง และลดความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้น จากการต่ออุปกรณ์ผิดหรือ วงจรไม่ทำงาน เนื่องจากต่อขาอุปกรณ์ผิด หรือใส่ค่าผิด ใส่อุปกรณ์ผิดขั้ว โดยอุปกรณ์ที่ควรระวังมีดังนี้
- ตัวต้านทาน สิ่งที่ต้องระวังคือ เรื่องค่าของตัวต้านทาน และ ขนาดของตัวต้านทาน เช่น เราอาจใส่ตัวต้านทานผิดขนาด ทำให้ตัวต้านทานไหม้ได้
- ตัวเก็บประจุ ต้องระวังเรื่องค่า และชนิด เพราะในบางวงจร แม้เราจะใส่ค่าถูกต้อง แต่ถ้าใส่ผิดชนิด อาจทำให้วงจรไม่ทำงาน โดยเฉพาะวงจรที่ทำงานกับความถี่สูง เช่นใส่ตัวเก็บประจุชนิดไมลาร์ แทน ชนิดเซรามิค นอกจากนี้ ถ้าเป็นตัวเก็บประจุชนิดอิเล็กโตรไลต์ ควรระวังเรื่องการต่อผิดขั้วด้วย เพราะอาจทำให้ ตัวเก็บประจุระเบิดได้
|
สำหรับอุปกรณ์ประเภทที่มีหลายขา เช่น ไดโอด, ทรานซิสเตอร์, ไดแอค, ไตรแอค ต้องระวังเรื่องตำแหน่งขา และ ขนาด โดยทั่วไปต้องใส่ให้ถูกขาและถูกเบอร์ และอุปกรณ์ประเภทไอซี ควรระวังเรื่องตำแหน่งขา เพราะอาจเสียหายทันทีถ้าใส่ผิด |
- รู้วิธีการต่อประกอบกับแผ่นวงจรพิมพ์แบบอเนกประสงค์ หรือรู้วิธีการทำแผ่นวงจรพิมพ์ขึ้นใช้เอง
- เข้าใจการทำงานของวงจร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และตรวจซ่อม
|
แผ่นวงจรพิมพ์
|
การประกอบวงจรทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนใหญ่จะประกอบบนแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ ที่เรียกกันทั่วไปคือแผ่นปรินซ์ หรือ แผ่น PCB (Printed Circuit Board) ซึ่งด้านหนึ่งที่ใส่อุปกรณ์จะเป็นฉนวน และ อีกด้านจะเป็นแผ่นทองแดงบางๆ จุดเด่นของการต่อเชื่อมวงจร ด้วยแผ่นวงจรพิมพ์ แทนการใช้สายต่อ คือ อุปกรณ์จะถูกวางอย่างเป็นระเบียบ และ ประหยัดพื้นที่ ลดความวุ่นวายจากการโยงสายที่ซับซ้อน และสามารถที่จะผลิตเป็นอุตสาหกรรมได้ด้วย แผ่นวงจรพิมพ์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ แผ่นวงจรพิมพ์แบบอเนกประสงค์ และ แผ่นวงจรพิมพ์เปล่า
|
1. แผ่นวงจรพิมพ์แบบ อเนกประสงค์ (Universal Board) |
แผ่นวงจรพิมพ์ประเภทนี้โดยมากมักจะมีการวางลายทองแดงเป็นเส้น ๆ และมีการเจาะรูไว้แล้ว สามารถเสียบอุปกรณ์ลงไปได้ทันที แต่อาจต้องมีการตัดลายทองแดง หรือเชื่อมต่อด้วยสายไฟในบางจุด ส่วนใหญ่มักใช้กับการประกอบวงจรที่ไม่ซับซ้อนหรือมีอุปกรณ์ไม่กี่ตัว โดยเราอาจจะแบ่งได้ตามแนวเส้นทองแดงด้านหลังเป็น 3 แบบคือ
|
1.1 ไอซีบอร์ด (IC Board) จะมีการวางตำแหน่งขาเป็นแนว ๆ แบบขาไอซี โดยระยะห่างระหว่างรูเจาะเท่ากับระยะห่างของขาไอซีพอดี ส่วนลายทองแดงจะมีลักษณะเป็นแถบยาวต่อเนื่องเป็นระยะเท่าๆกัน ดังรูป |
|
สำหรับการใช้งานจำเป็นต้องมีการตัดลายทองแดงเป็นบางส่วน และเชื่อมต่อด้วสายไฟในบางจุด |
1.2 โปรโตบอร์ด (Proto Board) จะมีลักษณะของลายทองแดง เหมือนกับแผ่นโปรโตบอร์ดที่เราใช้ต่อทดลองวงจร ดังรูปที่ 13.2 |
|
1.3 แพดบอร์ด (Pad Board) ลักษณะของแผ่นวงจรพิมพ์จะไม่มีลายทองแดงเชื่อมต่อ แต่มีเพียงลายทองแดงเป็นจุด ๆ เหมือนเป็นหลักยึดอุปกรณ์ ดังรูปที่ 13.3 โดยการใช้งานจะต้องเชื่อมต่อระหว่างสายระหว่างจุดดังกล่าวตามวงจร |
|
2. แผ่นวงจรพิมพ์เปล่า |
แผ่นวงจรพิมพ์ประเภทนี้จะมีแผ่นทองแดงบาง ๆ เคลือบอยู่ตลอดแผ่น ในการใช้งาน จำเป็นต้องกัดลายทองแดงบางส่วนออกไป ด้วยน้ำยาหรือ กรดกัดปรินซ์ โดยอาจจะมี 4 ลักษณะ คือ
|
2.1 แบบหน้าเดียว (Single Side PCB) แบบนี้จะมีลายทองแดงเคลือบอยู่เพียงหน้าเดียว เหมาะสำหรับวงจรที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนจนเกินไปนัก แผ่นวงจรพิมพ์แบบนี้จะราคาถูกและมีการใช้งานกว้างขวาง เพราะผู้ใช้สามารถกัดลายทองแดงเองได้ จึงมักนิยมใช้ในการทำโครงงานพื้นฐานต่าง ๆ |
2.2 แบบ 2 หน้า (Double Side PCB) แบบนี้จะมีทองแดงเคลือบอยู่ทั้ง 2 ด้าน ส่วนใหญ่ด้านหนึ่ง มักจะปล่อยให้เป็นลายทองแดงเต็มแผ่น ในลักษณะเป็น กราวน์เพลน (Ground Plane) โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดสัญญาณรบกวน มักใช้ในวงจรเครื่องรับหรือเครื่องส่งวิทยุ |
2.3 แบบ 2 หน้า เชื่อมต่อกัน (Double Side Plate Trough Hole PCB) หรือที่มักเรียกกันทับศัพท์ว่า แบบเพลททรูโฮล โดยแบบนี้ จะมีลายทองแดงเคลือบอยู่ทั้ง 2 ด้าน และมีเชื่อมต่อกันระหว่างทองแดงทั้งสองด้าน ผ่านทางรูที่ทำเป็นพิเศษ แผ่นวงจรพิมพ์ประเภทนี้ส่วนใหญ่ จะมีการวางอุปกรณ์ทั้งสองด้าน และลดพื้นที่ได้มาก ส่วนใหญ่มักจะสร้างเป็นวงจรสำเร็จมาจากทางโรงงานมากกว่า
|
2.4 แบบหลายชั้น (Multi Layer PCB) แผ่นวงจรพิมพ์ประเภทนี้จะมีความซับซ้อนมาก โดยจะมีลายทองแดงอยู่ด้านในด้วย และมีการเชื่อมต่อกันผ่านทางรูที่ทำพิเศษ แผ่นวงจรประเภทนี้ส่วนใหญ่มักทำสำเร็จมาจากโรงงานเช่นเดียวกัน เพราะมีการสร้างที่ซับซ้อน และยุ่งยากมาก ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถทำได้ |
นอกจากนี้ยังมีการเรียกแผ่นวงจรพิมพ์ ตามสารที่เป็นพื้นฉนวน เช่น แผ่นวงจรพิมพ์แบบ เบกาไลต์ (Bakelite) ซึ่งใช้ เบกาไลต์เป็นฉนวน ส่วนใหญ่มักมีสีน้ำตาล แผ่นวงจรพิมพ์แบบกลาสอีพ๊อกซี่ (Glass Epoxy) ซึ่งจะใช้ใยแก้ว เป็นฉนวน มักมีสีต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่มักทำเป็นสีเขียว หรือ สีฟ้า
|
การทำแผ่นวงจรพิมพ์
|
ในการทำแผ่นวงจรพิมพ์เพื่อใช้ในงานเล็ก ๆ ส่วนตัวมักนิยมใช้แผ่นวงจรพิมพ์แบบอเนกประสงค์ (Universal PCB) เพราะสะดวกรวดเร็วกว่า แต่ถ้าวงจรมีความซับซ้อนมากก็จำเป็นต้องออกแบบบนแผ่นวงจรพิมพ์เปล่า ๆ แล้วนำมากัดลาย วงจร ซึ่งอาจใช้วิธีเขียนลายวงจรด้วยมือ แต่โดยส่วนใหญ่ในการผลิตจำนวนมาก ๆ หรือผลิตเป็นอุตสาหกรรม มักใช้การทำแม่แบบสกรีน และใช้ซอฟต์แวร์เข้าช่วย ในที่นี้จะกล่าวเฉพาะการทำแผ่นวงจรพิมพ์หน้าเดียวด้วยมือ อย่างง่าย ๆ ซึ่งจะมีขั้นตอนดังนี้ี |
|
- สร้างลายวงจรต้นแบบ (Layout Drawing) คือขั้นตอนในการสร้างแบบลายวงจรตามแบบเส้นวงจร (Schematic Circuit) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลามากที่สุด โดยกรณีทำเองด้วยมือ จะเริ่มด้วยการกำหนดตำแหน่งอุปกรณ์ลงบนกระดาษ จากนั้นทำการร่างเส้นลายวงจร ในส่วนลายทองแดงเพื่อต่อเชื่อมถึงกัน ปัจจุบันนิยมใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรม Orcad หรือ Protel มาช่วยในงานดังกล่าว
- ตัดแผ่นวงจรพิมพ์เปล่า ตามขนาดต้นแบบ ด้วยเลื่อยฉลุ
- ทำความสะอาดแผ่นวงจรพิมพ์ด้านที่เป็นผิวทองแดง เพื่อล้างคราบไข หรือสิ่งสกปรกอื่น
- คัดลอกลายลงบนแผ่นวงจรพิมพ์ โดยวางแผ่นวงจรพิมพ์ให้ด้านที่เป็นทองแดงอยู่ด้านบน จากนั้นใช้กระดาษก๊อบปี้ หรือกระดาษคาร์บอน ที่ใช้กับงานพิมพ์ดีด วางทับบนผิวทองแดง แล้วนำกระดาษลายวงจรที่ออกแบบไว้แล้วมาวางทับลงไป ทำการลอกลาย โดยใช้ดินสอหรือปากกาปลายแหลม เขียนทับลงไปบนกระดาษต้นแบบ เพื่อให้ลายที่เขียนทับไปติดกับผิวทองแดงของแผ่น PCB เพื่อเป็นแนวในการลงหมึกต่อไป
- นำกระดาษคาร์บอน และ กระดาษต้นแบบลายวงจรออก แล้วใช้สีหรือปากกาเคมีเขียนตามแนวลายวงจร ที่ลอกแบบไว้ โดยพยายามเทียบจากต้นแบบไปด้วย เพื่อป้องกันความผิดพลาด จากนั้นรอให้หมึกแห้งสนิทก่อนนำไปกัดลายวงจร
- เตรียมสารละลายที่จะใช้กัดลายวงจร โดยใช้กรดกัดปรินซ์ (จะเป็นผงหรือก้อนสีเหลืองเข้ม ๆ ซึ่งความจริงคือสารเคมีที่ชื่อ เฟอริค คลอไลด์ และมีสภาพเป็นด่าง) ละลายกับน้ำในปริมาณที่เหมาะสม (อัตราส่วนที่นิยมใช้กันคือ กรด ½ กิโลกรัม กับ น้ำ 1 ลิตร ) ใช้ไม้หรือแท่งพลาสติก กวนส่วนผสมให้เข้ากัน
- นำแผ่นวงจรพิมพ์ที่วาดแบบลายวงจรเสร็จแล้วมากัด โดยแช่ลงในกรดที่เตรียมไว้ ในทางปฏิบัติจะวางด้านที่เป็นทองแดงไว้ด้านบน และพยายามเขย่าภาชนะที่ใส่กรดไปมา ไม่ควรแช่ทิ้งไว้เฉย ๆ ที่ทำดังนี้เพื่อให้ทองแดง ที่ถูกกัดแล้วหล่นลงไปด้านล่างภาชนะ ไม่หล่นบนผิวทองแดงด้านบน ซึ่งจะช่วยให้กัดเสร็จเร็วขึ้น ในกรณีต้องการแช่ทิ้งไว้ ควรวางแผ่นวงจรพิมพ์ในลักษณะ แนวดิ่ง หรือตะแคงเล็กน้อย ไม่ควรวางนอน แต่ต้องใช้ส่วนผสมที่เข้มข้นมากกว่าเดิม เวลาที่ใช้ในการกัดปกติจะอยู่ประมาณ 10-20 นาที ในขณะทำถ้าเป็นไปได้ควรสวมถุงมือยาง เพื่อไม่ให้กรดกัดถูกผิวหนัง แต่ถ้ากรดถูกผิวหนังหรือเข้าตา ต้องรีบล้างออกด้วยน้ำจำนวนมาก ๆ โดยเร็ว
- เมื่อกัดเสร็จเรียบร้อย ก็ดำเนินการล้างสีออกด้วยทินเนอร์ จากนั้นก็ทำความสะอาดด้านลายทองแดง ด้วยผงซักฟอกและสก๊อตไบต์ แล้ววางทิ้งให้แห้ง
- จากนั้นนำมาเคลือบลายทองแดง ด้วยน้ำยาเคลือบที่มีขาย หรือ อาจจะทำขึ้นเองโดยใช้ยางสนผสมกับทินเนอร์ก็ได้ เพื่อเคลือบผิวทองแดงให้สะอาด และไม่หมองไว
- เจาะรูตามขนาดขาของอุปกรณ์ โดยใช้สว่าน ก็จะได้แผ่นวงจรพิมพ์ตามต้องการ
|
|
|
|