จากรูป (ก) เป็นการจ่ายไบอัสตรงที่ขาเบสให้ทรานซิสเตอร์ และรูป (ข) เป็นการจ่ายไบอัสตรงให้กับทราน ซิสเตอร์ การทำงานอธิบายได้ดังนี้ ช่วงเวลา t0 ถึง t1 สัญญาณ Ei มีระดับ +E ปรากฏ จุดที่ 1 เป็นบวกเมื่อเทียบกราวด์ ขาเบสของทรานซิสเตอร์ ได้รับไบอัสตรง ทรานซิสเตอร์ทำงานเสมือนสวิตซ์ต่อวงจร (ON) ต่อขาคอลเล็คเตอร์ลงกราวด์ เอาท์พุต Eo = 0 V ช่วงเวลา t1 ถึง t2 สัญญาณ Ei มีระดับ -E ปรากฏ จุดที่ 1 เป็นลบเมื่อเทียบกราวด์ ขาเบสของทรานซิสเตอร์ ได้ รับไบอัสกลับ ทรานซิสเตอร์ทำงานเสมือนสวิตซ์ตัดวงจร (OFF) ตัดขาคอลเล็คเตอร์ออกจากอีมิเตอร์ เอาท์พุต Eo = +Vcc
2.3 สวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง สวิตซ์ในอุดมคติถือว่าทรานซิสเตอร์เสมือนสวิตซ์ทางไฟฟ้าคือ -ขณะสวิตซ์ต่อวงจร (ON) มีกระแส IC ไหลสูงสุดและแรงดัน VCE เป็น 0 V -ขณะสวิตซ์ตัดวงจร(OFF) กระแส IC เป็น 0 mA และแรงดัน VCE มีค่าเท่ากับแรงดัน Vcc โดยไม่คำนึงถึงคุณสม บัติ อื่นของทรานซิสเตอร์ ทรานซิสเตอร์ที่ถูกนำมาใช้งานจริงจำเป็นต้องคำนึงถึงค่ากระแสรั่วไหลและแรงดันตกคร่อมตัวทรานซิสเตอร์ เพราะทั้งสองนี้มีผลต่อการควบคุมการทำงาน กราฟลักษณะสมบัติของทรานซิสเตอร์แต่ละเบอร์จะแตกต่างกันซึ่งทำ ให้ทรานซิสเตอร์แต่ละเบอร์จะนำไปออกแบบวงจรเพื่อใช้งานได้แตกต่าง
รูปที่ กราฟคุณสมบัติของทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง
จากรูป แสดงกราฟคุณสมบัติสวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง แสดงความสัมพันธ์ระหว่างกระแสคอลเล็ค เตอร์ (IC) กระแสเบส (IB) และแรงดันคอลเล็คเตอร์อิมิตเตอร์ (VCE) จากกราฟส่วน อักษร A เป็นย่านการทำงานของทรานซิสเตอร์อิ่มตัว B การทำงานของทรานซิสเตอร์ในสภาวะคัตออฟ C การทำงานของทรานซิสเตอร์ทำงานตามการกระตุ้น
ที่จุดทำงานเมื่อสวิตซ์ทรานซิสเตอร์ต่อวงจร(ON) ทรานซิสเตอร์ที่จุดอิ่มตัวแรงดันตกคร่อมระหว่างคอลเล็ค เตอร์กับอิมิเตอร์(VCE) มีแรงดันประมาณ 0.3 V เรียกแรงดันนี้ว่าแรงดันอิ่มตัว (VCE(sat) ) โดยทั่วไปจะมีค่าประมาณ 0.1-0.5 V ขึ้นอยู่กับชนิดของสารกึ่งตัวนำที่ใช้ผลิตทรานซิสเตอร์ (Si=0.3 V และ Ge=0.1 V) ที่จุดทำงานในตำแหน่งสวิตซ์ตัดวงจร (OFF) ในตำแหน่งนี้ ขณะที่เบสของทรานซิสเตอร์ได้รับแรงดันไบอัส กลับ ไม่มีกระแสเบส(IB)ไหล แต่ยังมีกระแสคอลเล็คเตอร์(IC)ไหลภายในเล็กน้อย วงจรสมมูล(Equivalent Circuit) ของ สวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริงในสภาวะอิ่มตัว
การทำงานของสวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง การใช้งานสวิตซ์ทรานซิสเตอร์นั้นเมื่อได้รับไบอัสตรงหรือไบอัสกลับจะมีช่วงเวลาของสัญญาณเกิดขึ้นส่งผลให้ สัญญาณเอาท์พุตที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปได้โดยแยกเป็นช่วงเวลาทำงาน(Turn - ON Time:tON)และช่วงเวลาหยุดทำงาน (Turn - OFF Time:tOFF) ทำให้ช่วงเวลาของการสวิตซ์ล่าช้า
สวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง
จากรูป แสดงสวิตซ์ทรานซิสเตอร์ใช้งานจริง เมื่อป้อนสัญญาณพัลส์ -E2 ถึง +E1 สัญญาณพัลส์ที่ระดับ -E2 ทรานซิสเตอร์คัตออฟ และที่ระดับ +E1 ทรานซิสเตอร์ อิ่มตัวได้กระแสคอลเล็คเตอร์ IC ไหลในวงจร และแรงดัน พัลส์ออกเอาท์พุต Eo มีช่วงเวลาเกิดพัลส์ช้ากว่าพัลส์อินพุต Ei ในช่วงเวลาทำงาน(tON) เป็นช่วงที่ TR เปลี่ยนสภาวะจากหยุดนำกระแสเป็นสภาวะนำกระแส มีระดับแรงดันตก คร่อม TR เปลี่ยนแปลงจาก 100% ลดลงมาเหลือ 10% ในช่วงเวลา tON แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ช่วงเวลาหน่วง(Delay Time:td)เป็นช่วงที่แรงดันตกคร่อมลดลงจาก 100%-90%(เวลา t0-t1) และช่วงเวลาเคลื่อนขึ้นเป็นช่วงเวลาที่แรงดันตกคร่อม TR ลดลงจาก 90%-10% (เวลา t1-t2)
|